1. สยามโซน
  2. เพลง
  3. ข่าวสารวงการเพลง

พูดคุยกับหัวมันพันธุ์ดนตรี โปเตโต้ ถึงงานดนตรีชิ้นใหม่

พูดคุยกับหัวมันพันธุ์ดนตรี โปเตโต้ ถึงงานดนตรีชิ้นใหม่

"ไลฟ์" (Life) ผลงานหมายเลข 3 งานดนตรีชิ้นใหม่ของหัวมันพันธุ์ดนตรีนาม "โปเตโต้" ที่ประกอบด้วย "ปั๊บ - พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข" (ร้องนำ) "บ๋อม - สุวาทิน วัฒนวิทูกูร" (กลอง) "โอม - ปิยวัฒน์ อนุกูล" (เบส) และ "วิน - รัตนพล เก่งเรียน" (กีต้าร์) ส่วน โน้ต - นันทไกร ฉ่ำใจหาญ หนึ่งในสมาชิกวงโปเตโต้ขอพักงานเพลงไปเอาเวลาดูแลครอบครัว ชุดนี้จึงเหลือแค่ 4 คนดนตรีที่ยืนยันว่าจะเล่นดนตรีต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ซึ่งการทำงานจะเป็นยังไง ไปพูดคุยกับ 4 หนุ่ม โปเตโต้ กันเลย

เห็นว่าชุดนี้ โน้ต ออกไป

ปั๊บ "ครับ โน้ตเล่นกีตาร์ เขามีภาระที่บ้าน แต่เราไม่มีการหาคนแทน ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ ก็ขอพักไปก่อน แต่ไม่มีผลกระทบครับ เราเตรียมงานกัน 4 คนได้"

บ๋อม "เราทำงานด้วยกัน เพราะการทำงานเพลงไม่ได้อยู่ที่จำนวนสมาชิกน่ะครับ อยู่ที่วิธีการทำเพลง การมีกีตาร์ตัวเดียวหรือสองตัวไม่ได้มีปัญหาอะไร มีสองตัวก็ดีตรงที่ช่วยกัน แต่มีตัวเดียวก็เหนื่อยหน่อยตรงที่การเล่นต้องหนัก ครอบคลุม"

มีการเข้าออกของสมาชิกวงตลอด เคยคิดไหมเรื่องเปลี่ยนชื่อวง

ปั๊บ "ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องเปลี่ยน ไม่อยากหนีตัวเราเอง เราฝ่าฟันอุปสรรคมาเยอะแยะ แล้วคนที่เข้าออกเขาก็เป็นสมาชิกวงของเรา เราก็รู้ว่าเรายังเป็นเราอยู่เหมือนเดิม คำว่า โปเตโต้ เหมือนชีวิต เหมือนนามสกุลพวกผมนะฮะ เราไม่อยากเปลี่ยน ไม่รู้จะเปลี่ยนไปเพื่ออะไร เราก็รักนามสกุลนี้มาก จึงจะมีคนเพิ่มคนลดก็ยังเป็นโปเตโต้อยู่ดี"

ทำไมใช้ชื่ออัลบั้มว่า ไลฟ์

ปั๊บ "ถ้าเราต้องตั้งชื่ออัลบั้มชื่อหนึ่งขึ้นมาใหม่ ก็ไม่ครอบคลุมพวกเราทั้งหมด แล้วนี่ก็ต่อเนื่องมาจากชุด โก ออน คือมาจาก เดอะ โชว์ มัส โก ออน แต่ชุดนี้เหมือน ไลฟ์ โก ออน หลายอย่าง ไม่ได้หมายความว่าชีวิตน่ะครับ เพราะตั้งชื่ออัลบั้มว่า ชีวิต มันดูแปลกๆ"

บ๋อม "คือเราอยากจะตั้งชื่ออัลบั้มให้ครอบคลุม ไม่ตกหล่นเรื่องไหน ไลฟ์ เนี่ยคือวิถีการทำงานของเรา แล้วคุณไปฟังเอาเองว่าในอัลบั้มเนี่ยพูดถึงอะไรบ้าง"

เหมือนมีปรัชญาอะไรแฝงอยู่

ปั๊บ "ใช่ครับ เป็นปรัชญาแฝงในเพลงชื่อ กำแพง ผมแต่งเองครับ พูดถึงการที่เราแย่ในสายตาใครบางคน บางทีการแก้ตัวใหม่แค่ทำตัวให้ดีมันง่าย แต่สิ่งที่ยากคือเขาจะก่อกำแพงภายในใจว่าเขาจะอคติไปแล้วว่าเราไม่ดี เราต้องทำลายกำแพงนั้นทิ้งไป ซึ่งผมว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในชีวิต เหมือนเราทำดีมาตลอด ทำผิดแค่ครั้งเดียวเขาก็ปิดตาแล้ว เราไม่ต้องการแก้ตัว แต่เราจะแสดงให้เห็นทำให้เห็น"

บ๋อม "ผมว่ามันเป็นตัวแทนวิถีชีวิตของวงและของคนทั่วไปด้วย ที่ครั้งหนึ่งจะต้องเคยเจอ เรามักจะพูดถึงการเป็นคนดีก็แค่เลิกเป็นคนเลว นั่นคือการแก้ที่ตัวเราเอง แต่อีกฝ่ายหนึ่งเขามีกำแพงปิดกั้น คือคุณทำดีแค่ไหนแต่คุณไม่ทำลายกำแพงนั้นทิ้งไป เขาไม่มีวันเห็นคุณทำดีอยู่"

รู้สึกว่าอัลบั้มนี้มีส่วนร่วมเยอะขึ้น

ปั๊บ "ใช่ครับ เพราะว่าโปรดิวเซอร์ให้โอกาส อัลบั้มหนึ่งจะแบ่งสัดส่วนเป็นเพลงเร็ว เพลงมีเดียม แล้วก็เพลงช้า ในส่วนของเพลงเร็วเราจะรับผิดชอบกัน 100% 3 เพลง"

จุดเด่นของอัลบั้มนี้ที่แตกต่างออกไป

ปั๊บ "ซาวน์ครับ เพราะอัลบั้มที่แล้วจะเป็นโปรแกรมหมดเลยใช่ไหม อัลบั้มนี้ก็จะเป็นการอัดสดหมดครับ ไม่ว่าจะเป็นกีตาร์เป็นกลอง บ๋อมก็อัดกลองสด วินอัดกีตาร์ โอมอัดเบสครับ"

แนวดนตรีเป็นป๊อปร็อก

บ๋อม "พื้นฐานอยู่บนป๊อปร็อกครับ ซึ่งกว้างขึ้นอยู่กับลีลาว่าเป็นแบบไหน อธิบายคำพูดได้ยากครับ อย่างเราเคยบอกว่าเพลงของเราต้องมันด้วย เพราะด้วยในเวลาเดียวกัน เราไม่ถนัดร็อกโวยวาย แต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ดีน่ะครับ"

สีสันที่เพิ่มขึ้นของเพลง

บ๋อม "อย่างแรกสัดส่วนเพลงเร็วมีมากขึ้น ดนตรีก็มีรายละเอียดที่หนักแน่นขึ้น ภาษาก็ยังคงเสน่ห์แบบเดิมๆ ไว้ เล่นยากขึ้นด้วย "

ปั๊บ "เรื่องเพลงของเราก็คงหนีไม่พ้นเรื่องความรัก เพราะว่าทุกคนรับได้หมด แต่ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือเรื่องปรัชญา การให้กำลังใจ คือไม่อยากให้มองว่าโปเตโต้ต้องเป็นพระเอกอกหักตลอด แต่อยากจะให้มองว่าเป็นเศษเสี้ยวของอารมณ์คน อย่างเพลง ปากดี เป็นต้น จริงๆ ในอัลบั้มก็มีอีก อย่างเพลง รักแท้ดูแลไม่ได้ อันนี้ก็เป็นอีกอารมณ์หนึ่งประมาณว่าเพิ่งมารู้ตัวว่ารักผู้หญิงคนนี้แต่ก็สายไปแล้วแก้อะไรไม่ทัน"

เพลง ที่เดิม มีแรงบันดาลใจอะไรหรือเปล่า

ปั๊บ "ไม่มีครับ เกิดจากการมาแจมกันของกลอง กีตาร์ เบส ทำเมโลดี้ตอนทำก็เป็นคำของฮุกแหละครับ แต่โปรดิวเซอร์ก็จะมาช่วยรีไรต์อีกด้วย โดยส่วนตัวผมก็ยอมรับว่าไม่ได้เขียนเพลงเก่งอะไรขนาดนั้น คนอื่นก็จะแต่งดนตรีกัน จริงๆ เพลงในอัลบั้มนี้จะเกิดจากดนตรีก่อนแล้วค่อยมาถึงผมมาเป็นเมโลดี้"

บ๋อม "คือบางทีเริ่มต้นจากจุดหนึ่ง แล้วสักพักจะพากันไปเอง สมมติเพลงหนึ่งทำขึ้นมา กีตาร์อาจจะคิดขึ้นมาก่อน เบสคิดขึ้นก่อนหรืออะไรก็ได้ แต่พอทำแล้วเริ่มปะติดปะต่อ ท่วงทำนองของเพลงจะบอกเราเองว่า เฮ้ย! ทำนองนี้มันยังไง แล้วปั๊บนี่ดีอย่างเวลาฮัมไกด์เมโลดี้จะพูดเป็นคำภาษาไทยออกมาเลย บางทีทำนองเพลงมาอย่างนี้ทำให้เรารู้สึกอยากพูดเรื่องนั้น ก็จะมาเลย"

ในอัลบั้มนี้เพลงไหนที่เป็นโปเตโต้ที่สุด

ปั๊บ "ทุกเพลงเป็นเพลงโปเตโต้ในมุมต่างๆ อย่างที่เดิมก็ใช่ ปากดีก็ใช่ จริงๆ เพลงมันก็ถูกดึงมาจากเราน่ะครับ เพลงอัลบั้มนี้ค่อนข้างคลุมทุกอย่างว่าให้อยู่ในทิศทางเดียวกัน แต่ก็มีเพลงฟังสบายๆ บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในกลุ่มเดียวกัน"

ลองแนะนำเพลงในอัลบั้มนี้กันหน่อย

วิน "แนะนำเพลง ที่เดิม ครับ เพราะว่าเหมือนเป็นเพลงประจำวงนี้ เป็นเพลงแรกๆ ที่วงคิดขึ้นมาได้ แล้วเราก็รู้สึกภูมิใจกับเพลงนี้มาก เพลงนี้ไม่ยาก ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่ายแล้วก็มันด้วย"

บ๋อม "ผมแนะนำเพลง กำแพง อย่างที่บอกคือเรื่องเนื้อหาที่ออกจะแฝงปรัชญานิดหน่อย แล้วตรงกับชีวิตของพวกเราด้วย แล้วก็ชีวิตของใครหลายๆ คนด้วย จังหวะดนตรีก็เร็วที่สุดในอัลบั้ม แล้วดนตรีที่ทำขึ้นมาก็เพื่อที่จะเล่นคอนเสิร์ต"

โอม "สำหรับผมก็คงเป็นเพลง ปากดี ครับ เพราะว่าเนื้อหาตรงกับผม" (หัวเราะ)

ปั๊บ "ผมชอบ รักแท้ดูแลไม่ได้ เพราะผมชอบเนื้อหาที่เจ็บปวดกับความอลังการทางด้านความรู้สึกของเพลง เพลงนี้จะเป็นเพลงเดียวที่ค่อนข้างยิ่งใหญ่หน่อย จะมีเสียงไวโอลิน ออเคสตร้าเข้ามาช่วย ถ้าใครมีโอกาสฟังก็ลองฟังดูครับ"

ในการทำเพลงบางทีมันขาดมันเกิน มีวิธีคุยกันยังไงเพื่อหาจุดร่วม

ปั๊บ "พูดตรงๆ มันเมกเซ็นต์น่ะครับ เฮ้ย! มากไป เฮ้ย! อันนี้ส่วนตัวไปหรือเปล่า เราควรหาวิธีพูดให้เข้าถึงคนฟังมากกว่านี้ ต้องอยู่ที่ความเข้าใจของเราก่อนว่าเราทำเพลงเพื่ออะไร ถ้าเราทำเพลงเพื่อตัวเอง ผมไม่ต้องแคร์ใครก็ได้ แต่ทุกวันนี้พูดจริงๆ จากการที่ไปทัวร์คอนเสิร์ตมา เรามีความสุขกับการเล่นคอนเสิร์ตมาก เราเลยอยากทำเพลงให้คนดูเขามาเอ็นจอยกับเราได้ ร้องด้วย สนุกด้วย ก็เลยเป็นโจทย์ที่ว่า กลองแบบไหน เบสแบบไหน เมโลดี้แบบไหน เราอยากให้คนเข้าใจเขาชอบมากที่สุด"

บ๋อม "คือเราดูว่าความต้องการของคนฟังคืออย่างนี้ ความต้องการของเราคือให้คนดูเขามีความสุข เพราะฉะนั้นก็คือเรื่องเดียวกัน เรารู้ว่าหน้าที่ของนักดนตรีก็คือเล่นดนตรีให้คนอื่นฟัง ถ้าไม่อยากให้คนอื่นฟังก็เล่นดนตรีฟังอยู่ที่บ้านเอง วัตถุประสงค์เราเลยค่อนข้างชัด"

วงของเราเป็นยังไง

โอม "ขายหน้าตามั้งพี่ (หัวเราะ) โปเตโต้ก็คือมัน เราเล่นคอนเสิร์ตทุกคอนเสิร์ตก็คือมัน เราขายความสนุก"

ปั๊บ "ผมว่าโปเตโต้คือบทเรียนชีวิตที่ยิ่งใหญ่ มีทั้งเรื่องทุกข์ อุปสรรค การสูญเสีย มีทั้งความเหนื่อย มีทุกอย่าง เลยทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องอยู่กับมัน เหมือนเราต้องอยู่กับมันทุกอย่าง ความสุขที่เราได้รับกลับมา ทำให้เราต้องเดินต่อหยุดเดินไม่ได้ ก็เหมือนเราเดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ เราจะไม่รีบวิ่งจนหกล้ม แต่จะเดินช้าๆ แต่มั่นคงไปเรื่อยๆ สิ่งที่พวกผมคิดคืออย่างนี้"

เสน่ห์ของโปเตโต้อยู่ตรงไหน

ปั๊บ "ผมว่าแต่ละอัลบั้มก็แตกต่างกันไป อย่างอัลบั้มแรกมันจะมีความเป็นป๊อป เพราะว่าคนรับง่าย ถัดมาพอเริ่มเรียนรู้ทางดนตรีมากขึ้นเราก็ออก โก ออน สัดส่วนดนตรีมากขึ้น เนื้อเพลงจริงจังมากขึ้น เริ่มโตแล้ว อย่างชุดนี้ดนตรีก็เปลี่ยนแปลงมากขึ้น แต่ที่คงเดิมคงมีอัลบั้มที่แล้วกับอัลบั้มนี้ที่ภาษาเพลง"

วิน "เสน่ห์ของวงผมคิดว่าวงนี้เป็นวงที่รักการเล่นดนตรี เขาเคยพูดตั้งแต่ชุดที่แล้วว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็จะเล่นดนตรีต่อไป ถึงแม้ว่าสมาชิกจะเปลี่ยนไป แล้วเวลาเล่นคอนเสิร์ตวงนี้จะมีความสุข เวลาเห็นคนดูมีความสุข"

การทัวร์คอนเสิร์ตมีผลต่อการทำงานเพลงของเราไหม

ปั๊บ "ช่วงปีที่ 2 ที่เราทัวร์คอนเสิร์ต เราก็เริ่มทำเพลงกันแล้ว ซึ่งมีอะไรๆ หลายๆ อย่างเหมือนข้อสอบ มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราก็เริ่มรู้สึกว่าต้องมีอะไรสักอย่าง เพราะเราเริ่มจับจุดถูก"

บ๋อม "คือเวลาอยู่ในคอนเสิร์ตคนดูชอบอะไร เพลงแบบนี้ฟังเพราะ แต่เวลาเล่นคอนเสิร์ตเพราะไหม คนดูเขาสนุกกับเราหรือเปล่าหรือเราคิดไปเอง เหมือนทำอาหารน่ะครับ ทำอยู่บ้านก็ โอ้ย! อร่อยจังเลยไม่เคยออกมาให้คนอื่นเข้าชิม การเล่นคอนเสิร์ตก็เหมือนกับเอาออกมาให้คนอื่นเข้าชิม แล้วอีกอย่างการเล่นคอนเสิร์ตมันทำให้เราแข็งแรง ทำให้เรามีความพร้อมในห้องอัดมากขึ้นครับ"

อนาคตจะมีโอกาสเห็นปั๊บไปร่วมกับวงอื่นไหม

ปั๊บ "ไม่มีทาง เพราะแค่มีคนชวนผมไปร่วมร้องกับคนอื่น ผมแทบจะไม่เอาเลยด้วยซ้ำ เพราะว่าเรารู้อยู่เสมอว่าการเป็นวงเนี่ย คนเดียวมันไม่ใช่ ต้องมีเพื่อนด้วย นั้นคือจุดจบของความคิดคือถ้าไม่มีวงแล้ว ผมอาจจะทำอย่างนั้น"

คิดว่าเราจะสู้ในตลาดเพลงตอนนี้ยังไง

ปั๊บ "เราไม่ได้คิดเลยฮะ แค่เรามีความสุขในการทำเพลง แล้ววันที่ผมภูมิใจที่สุดคือวันที่เรามิกซ์ออกมาเป็นอัลบั้ม เสร็จก็รอให้คนฟัง คนได้ยิน ก็มีความสุขแล้ว ไม่ต้องขึ้นชาร์ตอะไรหรอก แต่ถ้าเกิดเขาชอบก็เป็นสิ่งล้ำค่าที่ทำให้เรามีแรงขับเคลื่อนต่อ"

บ๋อม "เรามีความคิดว่าเราอยากทำโน้นอยากทำนี้ เพราะฉะนั้นถึงเวลาทำแรงกดดันของเราคือเราอยากทำในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ ไม่ใช่เราทำเพื่อเราจะขายได้ เพราะครั้งที่แล้วที่ขายได้เราก็แปลกใจ เพราะเราไม่คิดว่ามันจะขายได้ วัตถุประสงค์ของเราคือเราเพื่อคนฟังตลอดเวลา แต่ไม่ได้หวังว่าจะขายได้เท่าไหร่"

ฝากผลงานหน่อย

ปั๊บ "ก็อัลบั้มที่ 3 นะครับ พวกผมก็ยังยืนยันว่าจะเล่นดนตรีต่อ ก็อยากให้ลองฟังดูตามร้านขายซีดีก่อนก็ได้ ถ้าชอบก็ซื้อครับ (หัวเราะ)"

พบกับ โปเตโต้ กับอัลบั้ม ไลฟ์ ทุกแผงเทปและซีดี 26 สิงหาคม เป็นต้นไป

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น