1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

บทสัมภาษณ์นางเอกสาว ฮัลลี่ แบรี่ ผู้รับบทนางแมว 2004

บทสัมภาษณ์นางเอกสาว ฮัลลี่ แบรี่ ผู้รับบทนางแมว 2004

ฮัลลี่ เบอร์รี่ นักแสดงสาวอัฟริกัน-อเมริกัน ที่หลายคนรู้จักเธอในบทบาท จิงซ์ ผู้หญิงของบอนด์ จากภาพยนตร์เรื่อง Die Another Day หรือ สตอร์ม จากภาพยนตร์เรื่อง X-Men และ X2

ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ ฮัลลี่ ที่เข้าฉายเมืองไทยในวันนี้ คือ Catwoman หรือ นางแมว ปี 2004 ซึ่งฮัลลี่เป็นผู้หญิงผิวสีคนที่สองที่ได้รับบทบาทนี้ต่อจาก เอิร์ธา คิตต์ ซึ่งเคยแสดงไว้ในปี 1960 ในรูปแบบละครซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ ก่อนที่ มิเชล ไฟเฟอร์ จะมาฝากบทบาทนี้ไว้กับภาพยนตร์ แบทแมน รีเทิร์นส ของผู้กำกับ ทิม เบอร์ตั้น ในปี 1992 ซึ่ง ฮัลลี่ เปิดใจให้สัมภาษณ์ ดังนี้

ใช้เวลาเตรียมตัวนานแค่ไหนสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้

"แปดเดือน ฉันเริ่มเมื่อเดินมิถุนายน เพื่อฝึกซ้อมและเตรียมตัวก่อนการถ่ายทำ ออกแบบเสื้อผ้าและวิกผม ฝึกซ้อมการต่อสู้ และเริ่มเรียนคาโปอิรา ศิลปะป้องกันตัวของบราซิล"

ได้ศึกษาแมวเพื่อรับบทนี้หรือเปล่า

"ใช่เลย ใช้เวลาดูวิดีโอเป็นชั่วโมงๆ อย่างนับไม่ถ้วน เรามีผู้หญิงคนหนึ่งที่ร่วมงานกับเรา เธอชื่อ แอน เฟลทเชอร์ เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการออกแบบท่าทางและการเคลื่อนไหวของแมว เธอควรเขียนมันไว้ในประวัติการทำงานของเธอด้วยแล้ว เพราะเธอและฉันใช้เวลาหลายชั่วโมงนั่งดูสารคดีแมว และเธอก็มีเลี้ยงแมวเอาไว้ศึกษา"

รู้สึกชอบคาโปอิรา ที่แคทวูแมนใช้ในเรื่องนี้ไหม

"มันเป็นเรื่องยากที่สุดที่ฉันเคยทำมาในชีวิต ฉันนับถือศิลปะป้องกันตัวทุกชนิด โดยเฉพาะคาโปอิรา เราต้องมีร่างกายที่แข็งเรงมาก ที่จะทำท่าทั้งแปดท่าให้ได้ มันยากมากๆ จริงๆ แล้วฉันก็ใช้เวลาฝึกอยู่นาน มันเป็นเหมือนกับรูปแบบของศิลปะที่สวยงาม"

แล้วตอนไหนยากที่สุด

"คงจะเป็นความทรหดอดทนที่ต้องใช้ละมั้ง ทุกๆ วันที่ผ่านไป เรามีฉากการต่อสู้หลายฉากด้วยกันในหนัง และแม้กระทั่งฉากที่ไม่มีการต่อสู้ ก็ยังเป็นเรื่องเหน็ดเหนื่อยในแต่ละวัน ต้องใช้ร่างกายอย่างมากและทำให้ฉันแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันๆ ละ 14, 16 ชั่วโมง แล้วมันก็เริ่มมีคนหมดแรง ไม่ใช่เฉพาะฉันนะ ทุกคนเลย ทีมงาน นักแสดงคนอื่นๆ ผู้กำกับฯ ของเรา ฉันไม่รู้ว่าเขายังยืนไหวหรือเปล่าหลังจากที่เขาต้องเจอมาทั้งหมด ฉันว่าเป็นเรื่องที่ทรหดมาก"

การทำงานกับพิทอฟเป็นอย่างไรบ้าง

"พิทอฟเหมาะสมที่สุดสำหรับหนังเรื่องนี้ เพราะเขามาจากโลกของสเปเชียลเอ็ฟเฟ็ค และเขาก็มองเห็นภาพหนังเรื่องนี้ในหัวของเขาเรียบร้อยแล้ว ฉันว่านั่นทำให้เขาพิเศษมาก เขามีความกดดันมาก หนังใหญ่เรื่องแรกของเขา มีกำหนดเส้นตายเยอะแยะ มีเรื่องที่เขาต้องแบกไว้บนบ่าทุกๆ วัน และเขาก็ไม่เคยสักครั้งที่จะระเบิดอารมณ์ หมดความอดทน ขึ้นเสียง และมันเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมจริงๆ และเราก็ชอบบรรยากาศในการทำงานที่เขาสร้างขึ้นมาก เพราะผู้กำกับฯ คือคนที่กำหนดทุกอย่าง"

รู้สึกได้ถึงความยั่วยวนทางเพศของแคทวูแมนไหม

"ก็ดูชุดของเธอซี เธอรู้สึกอย่างชัดเจนมาก ถึงความยั่วยวนทางเพศของเธอ (หัวเราะ)"

หมายความว่าเธอสนุกกับมัน

"ใช่ แน่นอนเลย เธอสร้างมันขึ้นนี่ เธอรักบทบาทของตัวเอง และเธอก็รู้สึกดีกับการฉลองความเป็นตัวเอง มันเป็นเรื่องรักในสิ่งที่ตัวของเธอเองเป็น เพราะคนที่เธอเคยเป็นมาก่อนมีแต่ความรู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่มั่นใจในตัวเอง"

คิดอย่างไรกับเสื้อผ้า

"มันถูกปรับปรุงมาจากสูทที่ฉันได้เห็นในตอนแรก แต่ฉันก็รู้สึกตื่นเต้นทันทีที่ได้เห็น มันต่างไปจากชุดในอดีต เป็นสัญลักษณ์ของแคทวูแมนในศตวรรษที่ 21 และฉันก็ชอบใจที่มันเป็นอะไรที่แตกต่าง จะมีประโยชน์อะไรถ้ามองไม่เห็นความแตกต่าง ผู้หญิงสองคนที่คืนชีพขึ้นมาเพื่อเป็นแคทวูแมน ไม่มีทางจะใส่ชุดเดียวกัน ชุดนี้เป็นการสะท้อนถึงวันนี้ ยุคสมัยใหม่ และเด็กรุ่นใหม่ของวันนี้รู้จักดี รวมทั้งการตอบโต้ของพวกเขาด้วย

ฉันรู้สึกมีพลังอย่างไม่น่าเชื่อและเป็นอิสระเมื่อสวมใส่ รู้ไหมว่าฉันต่อสู้ด้วยชุดนั้นหลายหน และมันให้อิสระกับฉันอย่างมาก รู้สึกกระฉับกระเฉงมากในชุดนั้น เหมือนอย่างที่แมวเป็น ฉันชอบมากที่นิ้วเท้าฉันได้โผล่ออกมา นั่นเป็นสัญญลักษณ์ของแมว อุ้งเล็บ เท้า ฉันคิดว่านั่นเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมมาก ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายเป็นเจ้าของความคิดนั้น และฉันคิดว่ามากดีมาก

คุณได้ให้ความเห็นกับชุดด้วยไหม

" ช่แล้ว พวกผู้อำนวยการสร้างอนุญาตให้เราออกความคิดเกี่ยวกับตัวละครของเรา เราต้องทำให้พวกมันมีชีวิต และให้เรามีสิทธิออกเสียงได้ พวกเขาให้เกียรติกับความเห็นของเรา และเป็นผู้นำเราไปสู่ทิศทางที่ถูก ฉันว่านั่นเป็นสิทธิอย่างที่สุดของตัวละคร เราทำงานกันเป็นที "

แล้วแส้ล่ะ

" ราทุกคนชอบแส้ การสะบัดแส้ให้ดังเฟี้ยวไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พอทำได้ มันจะให้ความรู้สึกเซ็กซี่และมีพลัง แส้นับว่ามีบทบาทสำคัญกับแคทวูแม "

รู้สึกว่ายากไหมที่ต้องสลับการแสดงเป็นตัวละครสองตัว

" ช่ มันเป็นความท้าทายของฉันในฐานะนักแสดงกับงานทั้งหมดนี้ บางคนอาจดูแล้วบอกว่า อ๋อ นี่มันหนังประเภทนั่งกินข้าวโพดคั่วตอนดู แต่มันก็เป็นหนังที่น่าหวั่นเกรงที่ต้องแสดง เพราะฉันต้องเป็นตัวละครถึงสามตัวในเรื่องนี้ แล้วมันก็ยากที่จะต้องคอยทำให้มันถูกต้อง

การที่พิทอฟเป็นหูเป็นตาให้เรา ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องในด้านภาพ แต่ยังเป็นการปรับแต่งให้เข้ากับอารมณ์ที่เป็นอยู่ของตัวละครตลอดเวลา เพื่อช่วยให้ฉันทำให้ถูกต้อง และแตกต่างจากอีกตัวละคร เพราะบางทีมันเป็นเรื่องที่ยากที่ฉันจะรู้ว่าในขณะที่พูดบทนั้น ฉันมีความเป็นแคทวูแมนมากขนาดไหนในจุดนั้น และตอนไหนที่เริ่มสับสนเมื่อสองตัวละครกลายเป็นหนึ่งเดีย "

ส่วนไหนของภาพยนตร์ที่ชอบมากที่สุด

" ันไม่เคยเป็นคนรักแมวมาก่อน จนกระทั่งเรื่องนี้ กับหนึ่งในบรรดาแมวในเรื่องนี้ที่ฉันพากลับบ้านด้วย ฉันเรียนรู้ว่าแมวเป็นสัตว์ที่เข้าใจยาก และเราต้องทำให้มันนับถือและรักกับไว้ใจ หมาจะมอบให้เราโดยไม่มีเงื่อนไข แต่กับแมว เราต้องใช้ความพยายามมากกว่า รู้ไหม ความรักของพวกมันเข้าใจยาก และฉันคิดว่าชอบบทที่ได้เป็นแมว แม้ว่าปกติแล้วฉันเป็นคนรักหมาก็ตา "

คิดว่าคนดูจะคิดอย่างไรกับ Catwoman เวอร์ชั่นนี้

" ันว่าทุกวันนี้หนังมีความละเอียดอ่อนมากขึ้น จนเราต้องมอบสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนให้กับคนดู และฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก พวกเขาเห็นมาเยอะ สเปเชียลเอ็ฟเฟ็คตระการตา มันเป็นเรื่องของการหาอะไรที่แตกต่างออกไปบ้าง และนำเสนอของใหม่ให้พวกเขา และหวังว่าเราคงจะสามารถหาได้อย่างสองอย่างในหนังเรื่องนี้ เราไม่ได้ประดิษฐ์กงล้อขึ้นมาใหม่ แต่หวังว่าเราจะหาทางใหม่ๆ ที่จะนำเสนอทฤษฎีเดิมได "

ช่วยบอกโทนของภาพยนตร์ให้ฟังหน่อย

" ันว่ามันเป็นหนังสำหรับคนดูทุกวัย เป็นหนังที่มีคุณภาพของสิ่งที่เราทุกคนจะรักและเรียนรู้เกี่ยวกับแคทวูแมน แต่อย่างที่ฉันพูดไว้แล้วว่า มันจะนำพาเราไปในศตวรรษที่ 21 ตามทางสายใหม่ของตัวละคร และเธอมีชีวิตอยู่ในโลกที่เป็นจริงมากกว่า เมื่อเทียบกับก็อธแฮมซิตี้ ซึ่งไม่ได้เป็นโลกจริงๆ

ฉันคิดว่าหนังเรื่องนี้ให้พลังกับผู้หญิง แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็คิดว่าพวกผู้ชายและเด็กผู้ชายก็คงอยากไปดูหนังเรื่องนี้ สิ่งที่สวยงามของมันก็คือ ผู้หญิงทุกคนมีอารมณ์ความรู้สึก ความอ่อนไหว แต่ในอีกซอกมุมหนึ่ง เราอาจกลายเป็นฝันร้ายที่สุดก็ได้ และฉันคิดว่าผู้ชายทุกคนรู้ดี (หัวเราะ)"

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Joe - ผู้กำกับ เดวิด กอร์ดอน กรีน มักจะเลือกคนท้องที่มาร่วมแสดงในภาพยนตร์ด้วยบ่อยครั้ง ในเรื่องนี้ก็เช่นกัน โดย เดวิด เสนอบท เวด ให้กับ แกรี โพลเตอร์ ซึ่งเป็นชายไร้บ้าน และหลังจากถ่ายทำภาพยนตร์เสร็จสองสามเดือน พบว่า แกรี เสียชีวิตอยู่บนถนนในออสติน รัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา อ่านต่อ»
  • Sin City: A Dame to Kill For - สร้างจากหนังสือการ์ตูนเรื่อง Sin City ของ แฟรงก์ มิลเลอร์ โดนนำตอน A Dame to Kill For ที่มีความยาว 6 เล่ม Just Another Saturday Night ความยาว 1 เล่มมาสร้าง ส่วนตอน The Long Bad Night เป็นตอนที่ แฟรงก์ เขียนไว้แต่ไม่เคยได้รับการตีพิมพ์ และตอน The Fat Loss เป็นตอนที่ แฟรงก์ เขียนขึ้นมาใหม่เพื่อภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เรื่องราวของเด็กชายกำพร้าที่รอดตายจากโศกนาฏกรรมจากหมู่บ้านของเขา แม้คุณพ่อคุณแม่จะถูกฆ่าเสียชีวิตหมด แต่เขาได้รับความช่...อ่านต่อ»