1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

รู้จักกับ ยูจินเนีย นักแสดงสาวจาก อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต

รู้จักกับ ยูจินเนีย นักแสดงสาวจาก อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต

หากย้อนเวลาไปสัก 20-30 ปีที่แล้ว สำหรับคอหนังที่เป็นนักดูหนังตัวจริง ถ้าเอ่ยชื่อ ชอว์ บราเธอร์ส น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก สตูดิโอผู้สร้างและจัดจำหน่ายหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแถบเอเชีย กล่าวได้อย่างเต็มความภาคภูมิใจสำหรับคนฮ่องกงว่าอุตสาหกรรมหนังจากฮ่องกง ถูกส่งออกไปยังนานาประเทศมาตลอดทศวรรษที่ 70 จนกล่าวได้ว่าอิทธิพลของหนังฮ่องกง เปรียบได้กับเป็นตัวแทนหรือศูนย์กลางของฮอลลีวู้ดฝั่งตะวันออกอย่างแท้จริง

ถ้าพูดถึงนักแสดงในอดีตที่เลื่องชื่อของ ชอว์ บราเธอร์ส แน่นอนว่าย่อมจะต้องมีชื่อ จางเพ่ยเพ่ย นักแสดงหญิงราชินีนักบู๊จอเงินของ ชอว์ บราเธอร์ส ในอดีตสมัยยุครุ่งเรืองด้วยอย่างแน่นอน

และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ประโยคที่เราเคยได้ยินกันบ่อยๆ อย่างลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น กล่าวได้ว่าเป็นโอกาสอันดีที่คนไทย กำลังจะได้มีโอกาสชมผลงานของทายาทสาวอดีตราชินีนักบู๊ในอดีตของ ชอว์ บราเธอร์ส กันในโรงภาพยนตร์เป็นครั้งแรก หลังจากที่ผลงานของเธอได้อวดสายตาฝรั่งชาวฮอลลีวู้ดมาหลายต่อหลายปี เนื่องจากว่าตัวเธอเองเกิด เติบโต และใช้ชีวิตอยู่ที่ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา มีผลงานการแสดงในภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง โดยเฉพาะภาพยนตร์ซีรี่ส์ที่คอหนังบ้านเราคุ้นเคย อาทิ NYPD Blue, Martial Raw, Beverly Hills 90201, Bay Watch ฯลฯ

เธอยังเป็นนักกีฬาประเภทยิมนาสติกลีลา ตัวแทนทีมชาติสหรัฐอเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วมในกีฬาโอลิมปิค แน่นอน แค่นั้นยังไม่หมด ด้วยพรสวรรค์ของเธอ จึงไม่แปลกถ้าเธอคือนักเต้นรำตัวจริงที่เริ่มต้นโชว์ลวดลายตั้งแต่อายุเพียง 4 ขวบ หลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็น บัลเลต์, ไชนิส แดนซ์, แจ๊ส, โมเดิร์น ชื่อของเธอก็คือ ยูจินเนีย หยวน เป็นโอกาสอันดีที่วันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอ และแน่นอนว่าด้วยความเป็นกันเองที่แสนน่ารัก ยิ้มแย้ม มีอัธยาศัยของเธอได้สร้างความประทับใจให้กับเราทันที

ถาม : อยากให้ช่วยแนะนำตัวเองให้กับชาวไทยได้รู้จักคุณมากขึ้นหน่อย

ตอบ : สวัสดีค่ะคนไทยทุกคน ดิฉัน ยูจินเนีย หยวน ดิฉันเป็นนักแสดงหญิงคนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง Three ในส่วนของนักแสดงจากฮ่องกง ซึ่งตัวฉันเองรู้สึกยินดีมากที่ได้พบและพูดคุยกับพวกคุณวันนี้ ก่อนหน้าที่ฉันจะได้มีโอกาสทำงานด้านการแสดง ฉันเคยเป็นนักกีฬาทีมชาติ ประเภทยิมนาสติกลีลาใหม่ ทำให้มีโอกาสได้เดินทางไปแข่งขันทั่วโลกเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น รัสเซีย ญี่ปุ่น จีน โดยเฉพาะบัลแกเรียที่ฉันต้องไปเรียนที่นั้น อย่างไรก็ตามเมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้น สังขารหรือร่างกายก็ย่อมร่วงโรย ฉันเรียนรู้ความจริงข้อนี้ดี หลังจากนั้นฉันก็ได้เริ่มต้นเรียนทางด้านการแสดง และเล่นสเก็ตน้ำแข็ง ซึ่งมีโอกาสได้ออกแสดงด้วย ต่อมาฉันก็ตัดสินใจที่จะเบนเข็มสู่อาชีพการแสดง ฉันเพิ่งเริ่มแสดงมาได้สักสองปีครึ่งแล้ว ซึ่งฉันคิดว่าการแสดงออกของการเต้น การเล่นสเก็ตน้ำแข็ง และกีฬา ช่วยในการเรียนรู้ถึงการแสดงอออกได้เป็นอย่างดี แล้วตอนนี้ฉันก็รู้สึกว่าฉันรักการแสดงมากด้วย

ถาม: การที่มีคุณแม่ จางเพ่ยเพ่ย (ราชินีนักบู๊สมัยชอว์บราเธอร์สยุครุ่งเรืองในอดีต ล่าสุดกับการรับบทเป็นจิ้งจองขาว อาจารย์ของจางจื่ออี๋ในภาพยนตร์กำลังภายในระดับเข้าชิงรางวัลออสการ์ Crouching Tiger, Hidden Dragon) เป็นถึงยอดนักแสดงชั้นนำที่มีชื่อเสียง ได้มีผลต่อชีวิตการแสดง หรือท่านได้ให้คำแนะนำในเรื่องการแสดงอย่างไรบ้างหรือไม่

ตอบ : ฉันคิดว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้จากคุณแม่มากที่สุด ไม่ใช่ในเรื่องของการแสดง แต่เป็นมุมมองต่อโลกในแง่บวก ทำให้ฉันจึงกลายเป็นคนที่ค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง คุณแม่สอนให้ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับการดำเนินชีวิต การวางตัว สอนให้รู้จักเปิดกว้างต่อทุกสิ่ง และฉันคิดว่าสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการแสดง เพราะมันจะทำให้ฉันเรียนรู้มากขึ้น และมีมุมมองที่กว้างขึ้น

ถาม : สำหรับโปรเจ็คต์ Three คุณมีส่วนร่วมหรือเข้ามาเกี่ยวข้องกับโปรเจ็กต์ได้อย่างไร

ตอบ : เป็นโอกาสอันดีที่ฉันได้เจอกับปีเตอร์ (ปีเตอร์ ชาน ผู้กำกับ Three ในส่วนของฮ่องกง) ซึ่งได้เดินทางมาอเมริกา เพื่อคัดเลือกหาตัวนักแสดง สำหรับภาพยนตร์ที่เป็นอีกโปรเจ็กต์หนึ่ง ซึ่งตัวฉันเองก็ได้เข้าไปร่วมคัดเลือกในโปรเจ็คต์นั่นด้วย ซึ่งตัวปีเตอร์เองเขาก็ชอบการอ่านบทของฉันมาก จนกระทั่งเมื่อเขาได้ทำโปรเจ็กต์Three นี้เขาก็นึกถึงฉัน และตัดสินใจโทรไปหาฉันที่อเมริกา เราได้คุยกัน แล้วเขาก็ถามฉันว่า สนใจที่จะเล่นหนังเรื่อง Three ไหม แน่นอนว่าตัวฉันเองสนใจอยากที่จะร่วมงานกับเขาอยู่แล้ว

ถาม : เมื่อรู้ว่าตัวเองได้ร่วมงานกับโปรเจ็กต์ Three นี้ ได้มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

ตอบ : เป็นสิ่งมหัศจรรย์มากสำหรับฉันที่ได้ร่วมงานในโปรเจ็คต์ที่ยิ่งใหญ่และน่าสนใจอย่าง Three แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ฉันยังไม่ทันได้เตรียมตัวอะไรมากมายเท่าไหร่นัก เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นในหนึ่ง สัปดาห์ ปีเตอร์โทรมาหาฉัน ในตอนที่ฉันกำลังนั่งอยู่บนเครื่องบินพอดี พูดได้ว่าเมื่อคุณเดินทางไปถึง คุณก็จะได้บทที่คุณต้องแสดง แล้วทุกอย่างก็เกิดขึ้น เพราะเมื่อคุณได้ลงมือทำ ปล่อยใจให้สบาย คุณเพียงแค่มอบความไว้วางใจทั้งหมดให้กับผู้กำกับและทีมงานทุกคนในโปรเจ็กต์ แน่นอนว่าสำหรับผู้กำกับอย่าง ปีเตอร์ ชาน ทีมงานเบื้องหลังอย่าง คริสโตเฟอร์ ดอยด์ ผู้กำกับภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก รวมไปถึง นักแสดงที่จะต้องร่วมงานด้วยกันอย่าง หลีหมิง เจิ้งจื่อเหว่ย คือทีมงาน ที่คุณสามารถไว้ใจได้

ถาม : อยากให้คุณยูจินเนียเล่าถึงรายละเอียดของคาแรคเตอร์ที่รับบทใน Three

ตอบ : ในภาพยนตร์เรื่อง Three ฉันเล่นเป็นภรรยาของลีออง (หลีหมิง) เราทั้งคู่ต่างเป็นแพทย์จีนแผนโบราณ โดยบรรยากาศของตัวหนัง เป็นเรื่องราวลึกลับ ตื่นเต้น เกี่ยวกับผี ซึ่งตัวฉันเองเล่นเป็นคนตายตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง สำหรับตัวละครของลีออง เป็นผู้ชายที่ยึดมั่นในความรักที่มีต่อภรรยาอย่างแรงกล้า ทุก ๆ วันตลอดระยะเวลากว่าสามปี เขาใช้ยาสมุนไพรจีนหวังว่าจะทำให้ฉันคืนชีพ เขาคอยดูแลฉันเป็นอย่างดี ทั้งตัดผม คอยอาบน้ำให้ฉัน ซึ่งตัวหนังแปลกและน่าสนใจมากค่ะ

ถาม : แสดงหนังเรื่อง Three นี้ยากไหม

ตอบ : ฉันก็ไม่คิดว่าจะยากเท่าไรนะคะ เพราะสำหรับการแสดง ฉันคิดว่ายิ่งเราเป็นธรรมชาติหรือตัวของตัวเองมากเท่าไหร หรือยิ่งทำให้ตัวละครมีความน่าเชื่อถือมากเท่าใด ก็จะยิ่งง่ายขึ้น เพราะตราบใดที่คุณเชื่อในเนื้อหา และชื่อว่าคุณเป็นตัวละครตัวนั่น อารมณ์มันก็จะไหลออกมาเองโดยอัตโนมัติ เพราะว่าสิ่งนั้นมันคืออารมณ์ของคุณเอง ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากเท่าไรนักสำหรับฉัน

ถาม : รู้สึกอย่างไรกับการได้เล่นหนังสยองขวัญ

ตอบ : นี่คือหนังสยองขวัญเรื่องแรก และแตกต่างจากหนังแนวอื่นๆ ที่ฉันเคยแสดงมาอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นหนังผี และเป็นหนังเรื่องแรกที่ฉันเล่นเป็นคนตายตลอดทั้งเรื่อง เป็นความท้าทายอย่างยิ่งกับการที่ต้องรับบทในลักษณะนี้ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ กับการที่นักแสดงจะต้องอยู่กับที่ตลอดเวลา การกำหนดขอบเขตของการแสดงให้อยู่ในจังหวะที่พอดี เพื่อให้คนดูรู้สึกไปการแสดงของเรา อย่างน้อยที่สุดให้รู้ว่ามีตัวละครตัวนี้ร่วมอยู่ในซีน และการให้ผลออกมาดังที่เราตั้งใจ ในการแสดงดังกล่าวทำให้ตัวของฉันรู้สึกชาเป็นเวลานาน และแถมยังต้องกลั้นหายใจในตอนเข้าฉากด้วย แต่มีสิ่งหนึ่งคือหลังจากที่คุณต้องเล่นเป็นคนตายเกือบตลอดทั้งเรื่อง คุณก็จะรู้สึกกลัวขึ้นมา ไม่ใช่ในทางที่ไม่ดีนะ มันเป็นความรู้สึกเหมือนกับว่าคาแรคเตอร์ต่าง ๆ ที่นักแสดงเล่นบางทีอาจจะทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวละครที่เล่น

ถาม : คุณเคยดูหนังของปีเตอร์มาก่อนไหม ตอบ : เคยค่ะ ฉันเคยดู Comrades Almost A Love Story (เถี่ยนมี่มี่ 3,650 วัน รักเธอคนเดียว) ซึ่งเป็นหนังที่ฉันโปรดปรานและรู้สึกประทับใจมาก จนทำให้ฉันอดที่จะถ่ายทอดความรู้สึกที่ประทับใจที่มีต่อหนังเรื่องนี้ให้กับใครๆ อีกหลายคนหลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้จบลงไม่ได้ จากนั้นแม่กับฉันต้องไปหาหนังเก่าๆ ของเขามาดู แต่เพียงแค่ได้แค่ชมภาพยนตร์ เรื่องนี้เรื่องเดียวฉันก็ตกหลุมรักผู้กำกับไปซะแล้ว และการได้ร่วมงานกับเขาก็ถือ เป็นเรื่องที่วิเศษมาก เขาเป็นคนที่ใจดีมาก แถมฉลาดด้วยคุณสามารถเห็น ความงดงาม ความอ่อนโยนผ่านรอยยิ้มของเขาได้เลยทีเดียว

ถาม : แล้วสำหรับดาราร่วมแสดงของคุณอย่าง หลีหมิง ละ

ตอบ : เยี่ยมมากคะ เขาเป็นมืออาชีพมากๆ และใจดีด้วยแถมยังเป็นธรรมชาติ ฉันโชคดีมากเลยค่ะที่ได้ร่วมงานกับเขา เพราะก่อนหน้านี้เคยได้มีโอกาสชมผลงานของเขาที่ฉันประทับใจมากเรื่อง เถี่ยนมี่มี่

ถาม : ทุกคนอยากไปฮอลลีวู้ด ทำไมคุณคิดอยากทำงานในเรื่อง Three

ตอบ : จริงๆ ฉันเชื่อว่านักแสดงทุกคนล้วนพยายาม หรืออยากที่จะหาโอกาสไปทำงานในฮอลลีวู้ดนะคะ แต่ฉันคิดว่าการได้ร่วมงานกับคนเก่ง ๆ อย่างปีเตอร์ ชาน, ลีออง, คริสโตเฟอร์ ดอยด์ และทีมงานอีกหลายคน ในเรื่อง Three ล้วนเป็นสิ่งที่วิเศษมากที่เกิดขึ้นกับฉัน แล้วคุณภาพของการทำงานก็ยอดเยี่ยมมาก แล้วความคิดในการร่วมงานกันระหว่างไทย เกาหลี ฮ่องกง เป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆ จะว่าไปแล้วมันก็มีความยอดเยี่ยมพอกันกับการได้ทำงานในฮอลลีวู้ด

ถาม : ในภาพยนตร์เรื่อง Three มีการพูดถึงเรื่องราวความรักและความตาย โดยส่วนตัวคุณเชื่อในสิ่งนี้หรือไหม

ตอบ : สำหรับในภาพยนตร์เรื่อง Three มีการสื่อถึงความรักและความตาย มีหลายช่วงในหนังที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความสะเทือนใจ ที่ส่งผลต่อความรู้สึกอย่างจับขั้วหัวใจ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนทุกความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นระหว่างหนุ่มสาว หรือกับพ่อแม่ คุณจะรู้สึกถึงความรักและความห่วงใย ดังนั้นฉันจึงเชื่อในสิ่งนี้อย่างสนิทใจ

ถาม : ความรักในความคิดของคุณมีความหมายว่าอย่างไร

ตอบ : ความรักในความคิดของฉันไม่ได้จำกัดอยู่ที่ความรักแบบแฟน หรือความรักระหว่างหนุ่มสาวเท่านั้น ความรักของฉันมีความหมายกว้างกว่านั้น มีคนที่ฉันรักหลายคนในชีวิต ไม่ใช่แค่เพื่อนชายหรืออะไรทำนองนั่น ฉันว่าการรักพี่น้อง การรักเพื่อน ต่างก็คือความรัก และเมื่อใดที่คุณมีความรู้สึกรัก คุณก็จะรักพวกเขาไปตลอด อย่างครอบครัวคุณๆ ก็จะรักพวกเขาไปตลอดชีวิต เช่นกันสำหรับในภาพยนตร์เรื่อง Three ความรักมันไปไกลกว่านั่น การพูดถึงการก้าวข้ามขอบเขตของความตาย แบบจุดสิ้นสุดความตายใช่ไหมค่ะ รวมทั้งเรื่องราวของชีวิตหลังความตาย ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้มีการสื่อถึงเรื่องราวเหล่านี้

ถาม : คาดหวังกับหนังเรื่องนี้อย่างไร

ตอบ : ฉันเชื่อว่าหนังน่าจะประสบความสำเร็จนะคะ เพราะฉันคิดว่านี่เป็นหนังที่มีความพิเศษมากทั้งในแง่ที่ว่ามันเป็นหนังของ 3 ประเทศที่มีความสด แปลกใหม่มาก ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน รวมทั้งในส่วนของตัวเนื้อเรื่องเอง มุมมอง การนำเสนอ ถ้าคุณได้มีโอกาสชม คุณจะรู้สึกเหมือนกับฉันเลยว่า มีความน่าสนใจอย่างมาก

ถาม : ปีเตอร์ ชานกับหลีหมิงได้มีการแนะนำหรือสอนอะไรคุณบ้างไหม

ตอบ : สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากนักแสดงที่มีชื่อเสียงอย่างลีออง (หลีหมิง) ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจและหาไม่ได้ง่ายๆ โดยวิธีการของฉันคือได้มาจากการที่ได้ดูเขาแสดง แสดง แสดง ฉันคิดว่านักแสดงส่วนใหญ่เลือกที่จะถามนักแสดงที่มีประสบการณ์มากกว่าว่าควรจะแสดงอย่างไรให้ออกมาดี แต่การที่ได้ดูเพื่อนนักแสดงของคุณเล่น ได้เห็นวิธีที่เขาแสดง วิธีที่เขาพัฒนาตัวละครให้โลดแล่น นั่นจะทำให้คุณเรียนรู้ได้มากกว่าเยอะ ส่วนปีเตอร์ก็จะแนะนำบางอย่างของเหตุการณ์ ฉาก รวมทั้ง บอกเล่าเรื่องราวให้ฉันคิดตาม แต่หลงจากนั้นก็ตกเป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องดำเนินต่อไป

ถาม : ถ้าพูดถึงเลข 3 คุณจะนึกถึงอะไร

ตอบ : Three หรือเลข 3 สำหรับฉันทำให้ฉันนึกถึงคำว่า เราสามคน

ถาม : อยากจะฝากอะไรกับแฟนชาวไทยไหม

ตอบ : ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณมากค่ะที่ให้เกียรติพูดคุยกับดิฉัน ก็อยากจะขอเชิญให้พวกคุณทุกคนมาชมภาพยนตร์เรื่อง Three กันนะคะ เพราะฉันคิดว่าการชมภาพยนตร์เรื่อง Three จะเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่น่าจดจำ กับการได้ชมภาพยนตร์จากสามประเทศที่มีสไตล์แตกต่างกัน และรู้สึกร่วมไปกับหนังสามเรื่อง แล้วก็ขอบคุณค่ะ

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Steve Jobs - เดิมที เดวิด ฟินเชอร์ รับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ถูกถอดออกเพราะ เดวิด ต้องการค่าจ้าง 10,000,000 เหรียญสหรัฐ และต้องการมีอำนาจควบคุมกระบวนการสร้างสรรค์ภาพยนตร์อย่างเต็มรูปแบบ ขณะนั้น เดวิด อยากให้ คริสเตียน เบล เข้ามารับบท สตีฟ จ็อบส์ แต่หลังจาก แดนนี บอยล์ เข้ามารับหน้าที่กำกับแทน ได้ทาบทาม ลีโอนาร์โด ดิคาพริโอ มารับบทนำ แต่ ลีโอนาร์โด ปฏิเสธไป หลังจากนั้น คริสเตียน ก็ได้รับข้อเสนอให้แสดงบทนี้อีกครั้ง ซึ่งเขาก็ปฏิเสธเช่นกัน ในที่สุดจึงได้ตัว ไมเคิล ฟาสส์เบนเดอร์ เข้ามารับบท สตีฟ จ็อบส์ อ่านต่อ»
  • 45 Years - ชาร์ลอตต์ แรมพลิง นักแสดงบท เคต และ ทอม คอร์ตเทเนย์ ผู้รับบท จีออฟ เคยปรากฎตัวร่วมกันใน Night Train to Lisbon (2013) มาก่อน อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

ทุกคนต่างก็พูดว่า แคสซี (แครีย์ มุลลิแกน) เป็นหญิงสาวอนาคตไกล จนกระทั่งเหตุการณ์ลึกลับทำให้อนาคตของเธอต้องหันเหออกนอกเส...อ่านต่อ»