ขำกระจายกับวิถีชาวทุ่งใน แสงสุดท้ายของอีเหี่ยน
ถึงคราวคนไทยได้ขำกระจายกันอีกครั้งกับภาพยนตร์ตลกสุดฮาแห่งท้องทุ่งบ้านนา "แสงสุดท้ายของอีเหี่ยน" ผลงานการกำกับของ "ตั้ม - พัชวศินทร์ วังวรรณธนะ" หรือ "แก้วสีเงิน" ซึ่งงานนี้ได้คว้าตัวนักแสดงหนุ่มหน้าหล่อ "เอ - พศิน เรืองวุฒิ" มาปรับมาดใหม่เป็นปลัดหนุ่มรูปงาม ประกบคู่กับนางเอกหน้าหวาน "เบน - นรีรัตน์ สีหราชนิเวศน์" และเสริมทัพความฮาด้วยดารามากฝีมือ อาทิ "เจเน็ต เขียว" หรือ "ทัศน์กมลทัต เธียรวิชญ์" "รุ้ง - รุ้งลาวัลย์ โทนะหงษา" "นุ๊กนิก - สังคม ขามสำโรง" "เดียร์ - ชุมพร เทพพิทักษ์" "อี๊ด - สมพงษ์ คุนาประถม" และนักแสดงใหม่แกะกล่อง "ใบบัว - ธัญญ์นลิน วีระพันธกุล" โดยจัดงานเปิดตัวภาพยนตร์กันไปแล้วเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558 ณ โรงภาพยนตร์ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน
ตั้ม เล่าถึงที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "สำหรับเรื่อง แสงสุดท้ายของอีเหี่ยน เกิดมาจากที่ตั้มมีวิกฤตทางชีวิต ตอนนั้นตั้มประสบวิกฤตทางชีวิตมากๆ หนักมาก ตั้มมีความรู้สึกว่าถ้าเรานั่งอยู่ในจุดเดิม แล้วไม่ยอมออกไปข้างหน้า ชีวิตมันจะอยู่แค่นี้ เราต้องมองข้ามช็อตไปเลยว่าไม่ได้ เราต้องทำหนังออกมาสักเรื่องหนึ่ง แต่ทีนี้มีน้องเบนนี่แหละ เขาเปิดยูทูบขึ้นมาในขณะที่เรากำลังนั่งเศร้ากันอยู่ เกิดวิกฤตหนักๆ ในชีวิต เขาก็เปิดยูทูบขึ้นมา แล้วเขาก็พูดคำว่า พี่ตั้มดูสิ เหี่ยนน่ะ เราก็เบนอะไรนะ เหี่ยนแปลว่าอะไร เขาก็เฮ้ยพี่ แปลว่าสั้น มันแปลว่าทุกอย่างสั้น กางเกงสั้น สั้นหมดเลย คือขี้หลงขี้ลืม แล้วจังหวะตอนนั้นเพื่อนอีกคนก็เปิดเพลงของ บอดี้สแลม ขึ้นมา เพลง แสงสุดท้าย โป๊ะเลย ฉันจะทำเรื่องนี้ แสงสุดท้ายของอีเหี่ยน ตอนนั้นไม่มีบทนะ"
ส่วนอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิด แสงสุดท้ายของอีเหี่ยน ขึ้นมานั้น ผู้กำกับแง้มว่า "แล้วก็แรงบันดาลใจอย่างที่ 2 คือประทับใจกับพี่เจเน็ต เขียว คือเขาก็เป็นไอดอลเลยฮะ เขาก็เป็นผู้หญิงที่มันต้องเป็นเขาน่ะ เรื่องนี้ต้องเป็นเขา เพราะว่าตั้มติดใจเขาตั้งแต่เรื่องหนึ่งของพี่หม่ำ (หม่ำ จ๊กมก หรือ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) แหยม (แหยมยโสธร) ครับ เราก็พี่เจเน็ต พี่เจเน็ตต้องมา นางพลังเยอะ นางใช้ถ่าน 3 ก้อน นางเล่นจนจบเรื่องเลยนะ" ตั้ม เผยความหมายของคำว่า แสงสุดท้าย ให้ฟังว่า "คืออย่างนี้ มนุษย์เราทุกคนเวลาหลังชนฝา เกิดวิกฤตอะไรก็แล้วแต่ มันจะมีแรงสปริง สปริงคือเฮ้ยไม่ได้ฉันต้องสู้ คำว่าแสงสุดท้ายคือแสงสุดท้ายแห่งการเริ่มต้น สู้ใหม่ มันก็คือการสู้ของชีวิต การสู้ของผู้หญิงคนหนึ่ง"
เอ กล่าวถึงตัวละคร ปลัดลิขิต หรือ ปลัดขิต ว่า "จริงๆ เราไม่ใช่พระเอกครับ เป็นตัวแสดงหนึ่งในเรื่อง เพราะว่าทุกคนเนี่ยมีชีวิตเหมือนกันหมดเลย ปลัดขิตครับ เป็นคนดีสักเรื่องครับเรื่องนี้ เป็นบทที่ยากที่สุดในชีวิตครับ ไม่ค่อยได้เล่น ร้อยเรื่องจะได้เล่นเป็นคนดีสักเรื่องหนึ่ง (หัวเราะ)" ด้านนางเอกของเรื่องก็แนะนำตัวเองว่า "สวัสดีค่ะ น้องเบน นรีรัตน์ นะคะ รับบทเป็นอีเหี่ยน นางเอกค่ะ คาแรกเตอร์เป็นเด็กสาวบ้านนอกที่มีความใสซื่อ และมีความกตัญญูต่อบุพการีค่ะ" เจเน็ต เขียว ซึ่งรับบทเป็นแม่ของ เหี่ยน พูดต่อว่า "คุณแม่ค่ะ คุณแม่รำพึงค่ะ มีน้องชื่อรำพันค่ะ ทะเลาะกันทั้งเรื่องนะคะ รักกันแต่พูดเข้าหูผิดหูกันไม่ได้หรอกค่ะ เป็นนางงามร้อยเวที คือเวทีไหนก็ประกวดหมดเลย ก็ดูหน้าเอาแล้วกันว่าประสบความสำเร็จหรือเปล่านะคะ"
รุ้ง ซึ่งรับบทเป็นน้องสาวคู่กัดของ เจเน็ต เขียว ก็รีบแนะนำตัวละครต่อ "รุ้งรับบทเป็นรำพันนะคะ ก็คือเป็นแบบสนุกสนานเฮฮาไป ก็จะเป็นคู่ปรับกับพี่สาวนะคะ แล้วก็เป็นน้าสาวของนางเอกนะคะ บทบาทก็สนุกสนานค่ะ รับรองได้ว่าดูแล้วก็เฮ้ยนี่เล่นหรือเปล่า หรือว่าตัวจริง ด้วยความที่ว่าทำไมรู้สึกว่าตัวจริง เพราะว่าภาษามันเข้าปากด้วย คาแรกเตอร์ตัวละครในหนังก็ไม่ได้ต่างจากตัวเองเลยนะคะ นอกบททั้งนั้นเลยค่ะ แต่มันเป็นธรรมชาติที่ดูแล้วสนุกสนานค่ะ" ส่วนผู้ที่โด่งดังมาจากรายการ ตีสิบ อย่าง นุ๊กนิก กล่าวถึงมิตรภาพระหว่างตนเองกับ เหี่ยน ว่า "รับบทเป็นเจ๊นุ๊กนิกนะคะ ซึ่งมีบทบาทคือช่วยเหลือน้องเหี่ยนนะคะ ก็คือจะพาน้องเหี่ยนไปสมัครงาน อยู่ข้างๆ ในยามที่น้องเหี่ยนตกทุกข์ได้ยากนะคะ นุ๊กนิกก็จะพาไปหางานทำนะคะ เป็นคนดี"
สาว รุ้ง เปิดใจถึงสิ่งที่ได้รับหลังจากได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ได้ทำงานที่รักค่ะ ต้องบอกว่าอย่างนั้นเลยนะคะ พอเราได้ทำงานที่เรารักแล้วชีวิตเรามีความสุขมาก แล้วก็ได้รู้จักทีมงาน แล้วก็นักแสดงที่เรายังไม่เคยร่วมงานด้วยนะคะ พอร่วมงานแล้วเรารู้สึกว่ามันเป็นครอบครัวหนึ่งเลยสำหรับเรานะคะ แต่สิ่งที่รุ้งคิดว่านอกจากตัวแสดงได้แล้ว คนดูเนี่ยต้องได้แน่นอน ทั้งความสนุก สาระ จากหนังเรื่องนี้เลยค่ะ" สาว เบน กล่าวถึงสิ่งที่ผู้ชมทุกคนจะได้รับหลังจากเข้าชม แสงสุดท้ายของอีเหี่ยน ว่า "ภาพยนตร์เรื่องนี้นางเอกก็จะสอนให้ท่านผู้ชมมีความมุมานะ อดทน แล้วก็มีความกตัญญู และที่สำคัญใช้ชีวิตอย่างพอเพียงตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวค่ะ"
ใบบัว ฝากผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเจ้าตัวว่า "หนังเรื่องนี้ก็เป็นหนังเรื่องแรกของใบบัวด้วย ก็เป็นนักแสดงใหม่ ก็ได้หลายๆ อย่าง เทคนิคจากพี่เจเน็ต พี่เอ พี่รุ้ง แล้วก็หลายๆ ท่านค่ะ ได้ร่วมงานกัน อยากให้ทุกคนไปดูค่ะ เพราะว่าเราตั้งใจทำงานกันมาก ก็ขอให้สนุกกับหนังนะคะ มันเป็นหนังที่ดูกันได้ทุกวัยด้วย พาลูกหลานไปดู ขอให้มีความสุขกับหนังไทยเรื่องนี้ด้วยค่ะ" ปิดท้ายด้วย นุ๊กนิก ที่เป็นตัวแทนของเพื่อนนักแสดงและทีมงาน ฝากภาพยนตร์ชวนขำลั่นทุ่งเรื่องนี้ "หนังเรื่องนี้นะคะ เป็นหนังบ้านๆ นะคะ สนุกสนานนะคะ ดูได้ทุกวัยทุกเพศนะคะ แล้วก็ต้องขอฝากไว้เลยนะ เป็นคนไทยนะคะ อุดหนุนหนังไทย ดูหนังไทยนะคะ แล้วก็ฝาก แสงสุดท้ายของอีเหี่ยน ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของพี่น้องชาวไทยทุกท่านด้วยแล้วกันนะคะ ขอบคุณจากใจ จากพวกเราทีมงาน แสงสุดท้ายของอีเหี่ยน ทุกคนนะคะ ขอบคุณค่ะ"
เมื่อเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์ นักร้องเสียงดี เจเน็ต เขียว ก็แสดงลีลาการเต้นและร้องแบบถึงพริกถึงขิงกับเพลง "อีเหี่ยนมาแล้ว" ร่วมกับผู้ที่มาร่วมงาน สร้างรอยยิ้มกว้างให้เกิดขึ้นบนใบหน้าของผู้ชมทุกคน ติดตามความสนุกสนานที่แฝงมาด้วยสาระและคติสอนใจในภาพยนตร์ แสงสุดท้ายของอีเหี่ยน ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไปในโรงภาพยนตร์
