1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

ชาเตฮุน พาไปพบเรื่องราววุ่นๆ ครั้งใหม่ของนายเจี๋ยมเจี้ยม

ชาเตฮุน พาไปพบเรื่องราววุ่นๆ ครั้งใหม่ของนายเจี๋ยมเจี้ยม

เมื่อพูดถึงนายเจี๋ยมเจี้ยม คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนักแสดงชาวเกาหลี "ชาเตฮุน" (Cha Tae-Hyeon) ที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง "My Sassy Girl" เมื่อหลายปีก่อน จนทำให้ชื่อนายเจี๋ยมเจี้ยมติดหูคนไทยมาจนถึงทุกวันนี้ และล่าสุดหนุ่ม ชาเตฮุน ก็เดินทางมาเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องใหม่อย่าง "Scandal Makers" ด้วยตัวเองที่เมืองไทย และยังให้สื่อมวลชนได้สัมภาษณ์เจาะลึกเรื่องราวในภาพยนตร์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ พารากอน ซีนีเพล็กซ์

ตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างไร

"จะต่างจากหนังที่ผมเคยเล่นเรื่องที่ผ่านๆ มาครับ สำหรับในเรื่องนี้ผมจะแสดงเป็นดีเจที่ไปไม่ค่อยรุ่งเท่าไรครับ"

ในเรื่องนี้ต้องรับบทเป็นพ่อและตา เป็นยังไงบ้าง

"สำหรับบทพ่อ ผมรู้สึกว่าไม่ยากเท่าไร เพราะวัยอย่างผมก็อาจจะเป็นพ่อได้แล้ว แต่บทตา ก็กลัวว่าจะแสดงแข็งไปหรือเปล่า ค่อนข้างเขินนิดนึง ตอนแรกที่ได้ทราบว่าต้องมารับบทเป็นตา ก็กังวลเหมือนกันว่าจะทำออกมาได้ดีไหม แต่พอได้ถ่ายทำ ก็รู้สึกสนุกกับงานครับ และผลงานก็ออกมาได้ดีครับ"

นักแสดงในเรื่องมีอายุต่างกันมาก มีปัญหาเรื่องการร่วมงานกันไหม

"คือจะกังวล ในเรื่องจะมีลูก คือ ปาร์กโบยัง (Park Bo-Young) ที่เป็นดารานำหญิง และมีหลานชาย ก็คือ วังซอกฮยอน (Wang Seok-Hyeon) แต่ก็สรุปว่าก็ผ่านมาด้วยดีครับ"

มีเรื่องอะไรสนุกๆ ระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์บ้างหรือเปล่า

"จะเป็นในเรื่องที่มีหลานชาย คือ ดาราเด็กวังซอกฮยอนทำให้กองถ่ายสนุกสนานมาก และจริงๆ แล้วตอนนี้ในประเทศเกาหลี ระหว่างพวกเรา 3 คน จะเป็นวังซอกฮยอนที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ไม่ใช่ตัวผมครับ (หัวเราะ)"

ประทับใจเรื่องฉากไหนในเรื่องนี้บ้าง

"เป็นฉากตอนที่เจอลูกสาว ซึ่งคือคุณปาร์กโบยัง ตอนที่เจอและทราบว่าเป็นลูกของตัวเองและไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีลูก ก็เป็นฉากที่ประทับใจมากครับ"

รู้สึกอย่างไรที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในเกาหลี

"ที่หนังประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะตัวผมคนเดียวครับ แต่เป็นเพราะทีมงานทุกคน และไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้มาเปิดตัวที่เมืองไทย หนังเรื่องนี้ มีอะไรที่คาดไม่ถึง อย่างจะมีลูกสาวโผล่มา ก็คิดว่าคนดูจะประทับใจและสนุกกับเนื้อเรื่องครับ"

นอกจากรายได้ถล่มทลาย แล้วยังได้รางวัลด้วย

"ผมรู้สึกดีใจมาก เพราะว่ารางวัลนี้เป็นรางวัลแรกที่ผมได้รับในรอบ 3-4 ปีที่ผ่านมา และรางวัลนี้เป็นรางวัลที่ประชาชนโหวตกันเข้ามา ผมเลยดีใจมากครับ"

คุณได้ฉายาในไทยว่านายเจี๋ยมเจี้ยม รู้สึกยังไงบ้าง

"ผมนายเจี๋ยมเจี้ยมครับ (ภาษาไทย) ถือว่าวันนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้รู้ว่าฉายาของผมคือนายเจี๋ยมเจี้ยม คือมาจากหนังเรื่อง My Sassy Girl ก็รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย แล้วขำๆ ด้วย เพราะได้รู้ความหมายในภาษาไทยแปลว่าอะไร ก็อึ้งๆ ไปนิดหน่อยครับ (หัวเราะ)"

มาเมืองไทยครั้งที่เท่าไรแล้ว

"มาครั้งที่ 2 แล้วครับ ครั้งที่แล้วมากับ คุณซงฮเยคโย (Song Hye-kyo) มาโปรโมตหนังเรื่องที่แล้ว ครั้งนี้ก็รู้สึกว่าบรรยากาศรอบๆ ดูดีมาก และประทับใจที่มีคนให้ความสนใจมากขนาดนี้ และตกใจครับที่มีคนมาร่วมงานมากขนาดนี้ ขอบคุณมากครับ และตอนนี้ที่ประเทศเกาหลี นิชคุณ (นิชคุณ หรเวชกุล) ก็โด่งดังมากครับ"

คุณคิดว่า นิชคุณ กับคุณใครหล่อกว่ากัน

"นิชคุณแน่นอน ผมเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ของนิชคุณเองครับ (หัวเราะ) ผมอยากเจอตัวจริงด้วยครับ"

ตัวจริงเหมือนกับบทบาทของนายเจี๋ยมเจี้ยมในภาพยนตร์หรือเปล่า

"ถ้าจะพูดเองก็เขินๆ แต่จริงๆ ก็เคยได้ยินเหมือนกันที่เกาหลีว่าตัวจริงของผมก็เหมือนในหนังครับ คือบทที่ผมได้รับก็ค่อนข้างจะคล้ายๆ กับตัวจริงของผมครับ"

ได้เล่นบทบาทเป็นพ่อแล้วรู้สึกอยากมีลูกบ้างหรือเปล่า

"จริงๆ ผมชอบลูกสาวมานานแล้ว พอได้เล่นเรื่องนี้ก็ยิ่งอยากจะมี ชอบครับ แต่ก็กังวลเหมือนในเรื่องว่าลูกสาวจะมีหลานชายอย่างนี้หรือเปล่า (หัวเราะ)"

ได้ร่วมงานกับ วังซอกฮยอน รู้สึกอย่างไรบ้าง

"ตอนนี้วังซอกฮยอนอายุ 6 ปีแล้ว เวลาพูดก็อาจจะพูดยังไม่ค่อยชัด ต้องทำหลายๆ ครั้ง และก็ยังเขียนและอ่านไม่ค่อยคล่อง แต่เวลาที่ออกงานก็จะรู้คิว รู้บท รู้ว่าจะออกตอนไหน ตอนนี้ก็โตขึ้นเยอะแล้ว เริ่มคุ้นเคยและปรับตัวได้ และที่สำคัญชอบผู้หญิงสวยมากๆ ครับ (หัวเราะ)"

เล่นภาพยนตร์กับเด็ก มีปัญหาไหม

"ทำงานกับวังซอกฮยอนคือเค้าเด็กมาก ก็มีความยากตรงที่เวลาน้องเค้าเหนื่อย เบื่อ หรืออยากจะนอนแล้ว น้องก็จะหยุดถ่ายแล้วนอนลงตรงนั้นแล้ว ตอนแรกๆ วังซอกฮยอนจะไม่ค่อยหัวเราะหรือว่าเล่นมาก แต่ว่าหลังจากที่เริ่มถ่ายทำแล้ว เค้าจะร่าเริงและตลกมาก"

ในระหว่างถ่ายภาพยนตร์มีเรื่องประทับใจอะไรบ้าง

"ค่อนข้างกังวลมากกว่าว่า นักแสดงนำ 3 คน ที่มีอายุค่อนข้างต่างกัน จะทำงานด้วยกันดีไหม จะไม่มีตอนไหนที่ประทับใจที่สุด แต่พอได้ใช้เวลาร่วมกันเรื่อยๆ ก็รู้สึกประทับใจมากขึ้น พอถ่ายไปนานๆ ก็รู้สึกเป็นครอบครัวขึ้นมาจริงๆ อย่างเวลาที่วังซอกฮยอนซึ่งเค้ายังเด็กอยู่ ตอนถ่ายทำไปแล้วเกิดง่วงหรือเหนื่อยขึ้นมา ก็รีบไปนอนบนตักของปาร์กโบยังครับ เลยรู้สึกเหมือนครอบครัวกันจริงๆ"

ถ้าในชีวิตจริงมีข่าวฉาวเหมือนในเรื่องจะทำยังไง

"เป็นเรื่องใหญ่เลยครับ ถ้าเป็นเรื่องจริงขึ้นมาคงไม่สนุกสนานอย่างในหนัง ถ้าสมมติว่ามีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นจริงๆ ผมก็คงจะวิ่งหนีไปเลยครับ (หัวเราะ)"

เรื่องนี้ได้รับการติดต่อไปทำภาพยนตร์ฮอลลีวูด รู้สึกยังไงบ้าง

"ครั้งก่อนที่แสดงเรื่อง My Sassy Girl ฮอลลีวูดก็เอาไปรีเมก และเรื่องนี้ก็ได้รับความสนใจเอาไปรีเมกอีก ผมก็รู้สึกดีใจมากๆ ครับ"

แล้วอยากจะให้ดาราฮอลลีวูดคนไหน เล่นในบทตัวเอง

"โดยส่วนตัวผมชอบ วิลล์ สมิธ (Will Smith) ครับ"

อยากพูดฝากภาพยนตร์ว่าอะไรบ้าง

"อยากให้ดูหนังอย่างสนุกสนานนะครับ หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังโรแมนติกคอเมดีอย่างเดียวครับ คือจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวที่อยู่ด้วยกันอย่างสนุกสนาน และใช้เวลาร่วมกันอย่างประทับใจ ก็อยากจะให้ช่วยกันติดตามดูครับ และในอนาคต หากมีหนังเกาหลีดีๆ เมื่อไร ก็อย่าลืมช่วยกันชมภาพยนตร์เกาหลีด้วยนะครับ"

เรื่องราวอลเวงของคน 3 วัย ครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร ติดตามได้ในภาพยนตร์เกาหลี Scandal Makers หรือ ลูกหลานใครหว่า ป่วนซ่า นายเจี๋ยมเจี้ยม ได้ในโรงภาพยนตร์ ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม นี้

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

  • The Haunting in Connecticut
    เข้าฉายปี 2009
    แสดง Virginia Madsen, Kyle Gallner, Martin Donovan
  • Hellboy
    เข้าฉายปี 2004
    แสดง Ron Perlman, John Hurt, Selma Blair
  • The Passion of the Christ
    เข้าฉายปี 2004
    แสดง Jim Caviezel, Monica Bellucci, Claudia Gerini

เกร็ดภาพยนตร์

  • John Wick - คีนู รีฟส์ ผู้รับบท จอห์น แสดงฉากเสี่ยงตายด้วยตัวเองทั้งหมด ทั้งฉากต่อสู้ ฉากดวลปืน ฉากกระโดดจากตึกสูง รวมถึงฉากขับรถไล่ล่าด้วย อ่านต่อ»
  • Whiplash - ใช้เวลาถ่ายทำเพียง 19 วัน อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับ ไมค์ แบนนิง (เจอราร์ด บัตเลอร์) และ ประธานาธิบดี อัลลัน ทรัมบูล (มอ...อ่านต่อ»